การสลับยางและการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

การสลับยางและการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
การสลับยางนั้นจุดประสงค์เพื่อต้องการให้ยางทุกเส้นมีการสึกของดอกยางเท่ากันสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งล้อหน้าจะเกิดจากความดันยางแล้ว สภาพของศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้องก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ยางผิดปกติ และมีอายุการใช้งานสั้นลง
การตั้งศูนย์และถ่วงล้อ นอกจากจะเป็นการเพิ่มอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดการสึกหรอผิดปกติลดปัญหาการสั่นเต้น หรืออาการดึงที่พวงมาลัยลงได้อีกด้วย
? เพื่อให้ยางมีอายุการใช้งานได้นาน ควรสลับยางทุกๆ 10,000 กม.
? โดยปกติควรตรวจสอบศูนย์ล้อ ทุกๆ 4 - 6 เดือน หรือทุกครั้งที่เปลี่ยนยางใหม่ หรือในกรณีที่สังเกตเห็นยางเริ่มสึกหรอผิดปกติ
? ก่อนทำการถ่วงล้อ สิ่งสำคัญคือ ต้องแน่ใจว่าล้อและยางหมุนคล่องไม่แกว่งและกลมจริง เพราะถ้าหากยางอยู่ในสภาพไม่ดี
จะแก้ไขเช่นไร ก็คงจะให้ประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ได้ยาก
? การถ่วงล้อหลังก็มีความสำคัญเท่ากับการถ่วงล้อหน้า ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุดถ้าหากทำการถ่วงล้อหรือสมดุลล้อทั้ง 4 ล้อในคราวเดียวกัน

การสลับตำแหน่ง 4 ล้อ (ไม่รวมยางอะไหล่)
ยางทั่วไป ยางแบบดอกยางทิศทางเดียว
รถขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ รถขับเคลื่อนล้อหน้า รถทุกแบบ

การสลับตำแหน่ง 5 ล้อ (รวมยางอะไหล่)
ยางทั่วไป ยางแบบดอกยางทิศทางเดียว
รถขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ รถขับเคลื่อนล้อหน้า รถทุกแบบ
หมายเหตุ : เส้นทึบ แสดงทิศทางการสลับตำแหน่ง เส้นปะ คือ อีกทางเลือกของทิศทางการสลับตำแหน่งยาง

ในเรื่องของศูนย์ล้อนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่ออายุการใช้งานของยางรถยนต์ ศูนย์ล้อคือการจัดวางแนวทางระยะต่างๆ
หรือปรับแต่งกลไกลการบังคับเลี้ยวของระบบช่วงล่างด้านหน้าของรถยนต์ การปรับศูนย์ล้อที่ถูกต้องเหมาะสมมีผลให้

- การบังคับพวงมาลัยที่ง่ายสะดวกสบายและมั่นคง
- สามารถป้องกันการสึกหรอที่ผิดปกติของยาง

โดยทั่วๆไปแล้ว ศูนย์ล้อมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกันอยู่ 4 อย่างคือ มุม Camber , Kingpin , Caster , และมุม Toe
ด้วยเหตุที่ศูนย์ล้อที่ไม่ถูกต้องไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตา ดังนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่จึงละเลยไม่สนใจเกี่ยวกับศูนย์ล้อ
ซึ่งความเป็นจริงแล้วศูนย์ล้อเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากต่ออายุยางรถยนต์ ฉะนั้นผู้ใช้รถทุกท่านจึงควรตระหนักถึงศูนย์ของรถท่านเอง
และปฏิบัติตามข้อแนะนำที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ

การเปลี่ยนยาง ( Tire Change )
เมื่อยางมีความลึกดอกยางเหลือน้อยกว่า 16 ม.ม.ก็ควรที่จะถอดเปลี่ยน เพราะถ้าใช้ต่อไปจะทำให้ เกิดปัญหาไม่ยึดเกาะถนนลื่นไถลได้ง่ายโดยเฉพาะบนถนนเปียก ความทนทานต่อการถูกตำทะลุลดลง ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน
การสึกของดอกยางที่ควรจะเปลี่ยนยางใหม่

จุดกำหนดอายุดอกยาง
ดังนั้น เมื่อยางถูกใช้งานไปเรื่อยๆ ยางก็จะสึกหรอ จนกระทั่งถึงสันนูนของเนื้อยางในร่องยางตามจุดที่กำหนด ก็จะเกิดลักษณะ " ร่องยางขาดช่วง" ที่ร่องยางบริเวณนั้น ก็แสดงว่ายางเส้นนั้นมีความลึกร่องยางเหลือเพียงประมาณ 2 ม.ม. และหมดอายุการใช้งาน สมควรที่จะเปลี่ยนใช้ยางเส้นใหม่ เนื่องจากถ้าใช้งานต่อไปจะเกิดปัญหาทางด้านประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และการหยุดรถได้

Visitors: 37,184